รับดูแลทำความสะอาดรองเท้าทุกประเภท ทั้งรองเท้าแตะ รองเท้าคัทชู รองเท้าส้นสูง รองเท้าบูท รองเท้าหนัง รองเท้ากีฬา รองเท้าผ้าใบเรารับหมด
การทำความสะอาดประกอบด้วย การทำความสะอาด ภายใน ภายนอก เชือกรองเท้า พื้นรองเท้า ฆ่าเชื้อโรค และบำรุงหนังหรือยาง ซึ่งวิธีการทำความสะอาดรองเท้าแต่ละชนิดความยากง่ายในการดูแลนั้นต่างกัน ขึ้นกับ
1.ความซับซ้อนของรองเท้า
รองเท้าที่ไม่ซับซ้อน ไม่มีซอกหลืบละเอียดมาก ก็ทำความสะอาดง่าย เช่นรองเท้าแตะ รองเท้าสลิปเปอร์ รองเท้าสลิปออน รองเท้าที่ซับซ้อนและทำความสะอาดยาก เช่น รองเท้าที่ประกอบด้วยเชือกถักร้อย รองเท้าบูท รองเท้าผ้าใบ รองเท้ากีฬา เป็นต้น
2.วัสดุที่ใช้ทำรองเท้า
รองเท้าที่ทำยากที่สุดคือรองเท้าหนังกลับ เพราะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ และไม่ควรโดนน้ำ หากว่าเปื้อนสกปรก หรือคราบฝังแน่นจะมีปัญหาในการทำความสะอาดมาก อีกทั้งยังต้องมีน้ำยาบำรุงเฉพาะ ในกระบวนการทำให้แห้งก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
รองลงมาคือรองเท้าหนัง ความยากคือต้องระวังเป็นพิเศษ ยิ่งถ้าเป็นรองเท้าที่ขาดการบำรุงหนังอย่างต่อเนื่องมานาน หรือถอดไว้ไม่ได้ขัดหรือบำรุงเลย มักมีปัญหาเรื่องหนังแตก และอีกประเด็นคือมักมีปัญหาเรื่องเชื้อรา ซึ่งหนังเป็นวัสดุที่เหมาะกับการเจริญของราอยู่แล้ว แล้วต้องเข้ากระบวนการทำความสะอาดขั้นล้ำลึกแต่ด้วยสะภาพหนังที่เสี่ยงต่อการแตกร่อนอีก จึงเป็นวัสดุที่ทางร้านต้องให้ความระมัดระวังค่อนข้างมาก ใช้ความใส่ใจ และเวลาในการทำความสะอาดสูง ต้องใช้แปรงขนอ่อนพิเศษ และน้ำยาเฉพาะสำหรับหนัง อีกทั้งยังต้องบำรุงหลายขั้นตอนหลังทำเสร็จ หลายท่านก่อนนำมา บอกทางร้านว่ารองเท้ายังใหม่แม่ซื้อมานาน แต่ถอดไว้ไม่ได้ใส่ มั่นใจว่าทำความสะอาดง่ายไม่มีเปื้อนแน่นอน แต่ปัญหาที่ทางร้านกังวลคือ เอามาดูแลแล้วปรากฏว่าหนังหลุดลุ่ยเสียหาย ดังนั้นจะมีหลายเคสที่เราอาจต้องขอส่งคืนหลังทราบประวัติการใช้หรือหลังเห็นสภาพของหนังว่ามีความเสี่ยงต่อการชำรุดเสียหาย
รองเท้าที่ทำจากผ้า ในปัจจุบันมีรองเท้าที่ทำจากผ้าหลากหลาย เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ผ้าสักกะหลาด และผ้าที่เกิดจากการผสมของผ้าฝ้าย ผ้าลินิน และโพลิเอสเตอร์ อย่างผ้าแคนวาส เพื่อให้ได้คุณสมบัติที่แตกต่างออกไป อีกทั้งผ้าที่มีการทอแบบเป็นกระจุกที่ซับซ้อนถึง2ชั้นอย่างผ้ากำมะหยี่ยิ่งมีข้อควรระวังขึ้นไปอีก รวมทั้งผ้าขนเฟอร์ ที่เกิดจากการขนด้านในของสัตว์มาถักทอ ซึ่งด้วยคุณสมบัติที่เป็นวัสดุที่หายาก และกรรมวิธีทียุ่งยากยิ่งต้องใช้ความระมัดระวังสูง ปัญหาที่น่าห่วงสำหรับรองเท้าผ้าส้วนใหญ่คือเนื้อผ้าแต่ละแบบมีการทำความสะอาดที่ต่างกัน เรื่องพื้นสีของผ้าแต่ละชนิดก็อาจส่งผลต่อการซีดจาง หมอง หรือสีตกได้ อีกทั้งปัญหาที่เกิดจากการหลุดล่อนของเนื้อผ้า การเกิดปมขุย สิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยทั้งวัสดุ ผลิตภัณฑ์ที่คัดสรรอย่างดีแล้วยังต้องอาศัยทักษะพิเศษของช่างในการดูแลรองเท้าอีกด้วย
รองเท้ายาง ทำความสะอาดไม่ยากมากแต่ปัญหาที่เจอคือคราบฝังแน่นที่เป็นคราบสกปรกและคราบเหลืองบางครั้งต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดที่พิเศษและไม่ทำลายสารเคลือบยางที่ทางโรงงานเคลือบมาให้เพื่อรักษาสภาพยาง อีกทั้งยังต้องบำรุงด้วยคอนดิชันเนอร์ที่มัุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นและกันUV อีกด้วย
3.สีพื้นเดิมของรองเท้า
รองเท้าที่มีสีอ่อนจะยากต่อการกำจัดคราบหากคราบนั้นเป็นคราบหนักฝังแน่นมานาน ส่วนความยากของรองเท้าที่พื้นสีเข้มก็คือ หากเป็นคราบฝังแน่น ต้องใช้ขั้นตอนการขจัดคราบที่นาน หรือขัดถูแรง ใช้น้ำยาที่เข้มข้น ปํญหาที่จะตามมาคือ สีที่ซีดจางไปของรองเท้า ดังนั้งช่างจึงต้องอาศํยวิธีการและประสบการณ์ค่อนข้างมากในการดูแลรองเท้าแต่ละคู่
4.ชนิดของคราบและความสกปรก
ว่าเปิดจากสาเหตุอะไร เช่น คราบจากน้ำมัน คราบจากยางมะตอย ครายจากสีทาบ้าน คราบจากอาหาร คราบจากยางพืช เป็นต้น แต่ละคราบจะทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ที่ต่างกัน ความยากง่ายต่างกัน
5.ขนาดของรองเท้า
รองเท้าที่มีขนาดใหญ่ก็จะใช้เวลาและผลิตภัณฑ์ในการดูแลที่มากกว่ารองเท้าคู่เล็กกว่า
ค่าบริการคิดอย่างไร
ค่าบริการ ขึ้นกับ ขนาด ความซับซ้อน วัสดุที่ผลิตรองเท้านั้น สีพื้นเดิม ความสกปรกมากหรือน้อย ชนิดของคราบ คลิกเพื่อประเมินค่าบริการ
ใช้เวลากี่วัน โดยปกติเราจะส่งคืนหลังจากรับมาประมาณ 3 วัน เนื่องจากเรามีคิวที่ต้องทำความสะอาดหลายคู่ ทุกอย่างต้องทำตามลำดับคิว แต่ทางร้านมีบริการซักด่วน ที่เราต้องอาศัยความร่วมมือในการเร่งมือของพนักงาน ทำให้มีค่าบริการเพิ่มเติม
รีวิวผลงาน 👇